หมอเด็กคือใคร? ทำไมลูกน้อยต้องพบกุมารแพทย์โดยเฉพาะ
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพเด็ก
บทความโดย : พญ. ธิดารัตน์ แก้วเงิน

หมอเด็ก แพทย์เด็ก หมอกุมารเวช หมอรักษาเด็ก หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า กุมารแพทย์ คือแพทย์ที่มีความชำนาญนการดูแลสุขภาพเด็ก มีความสำคัญมาก เพราะเด็กต้องการการดูแลที่เฉพาะเจาะจงทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม หมอเด็กไม่เพียงแต่รักษาโรค แต่ยังช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี และช่วยให้พ่อแม่มีแนวทางในการดูแลลูกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพราะเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก แต่มีระบบร่างกายและจิตใจที่ต้องการการดูแลเฉพาะด้าน พ่อแม่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องเลือกพบหมอเด็กแทนหมอทั่วไป มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน
สารบัญ
รู้จักหมอเด็ก (กุมารแพทย์)


เมื่อพูดถึง “หมอเด็ก” หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า “กุมารแพทย์” (Pediatrician) หลายคนอาจเข้าใจว่าหมอเด็กรักษาโรคทั่วไปในเด็ก กุมารแพทย์มีบทบาทมากกว่านั้นมาก โดย กุมารแพทย์ คือ แพทย์เฉพาะทางที่จบมาจากสาขาวิชาแพทยศาสตร์ที่เน้นการดูแลรักษาทารก เด็ก และวัยรุ่นตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 15 ปี หรือที่เรียกว่า กุมารเวชศาสตร์ ผ่านการฝึกอบรมด้านสุขภาพเด็กโดยเฉพาะ มีความชำนาญในการดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุประมาณ 15 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายและจิตใจของเด็กมีการเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยหมอเด็กจะเรียนต่อเฉพาะทางหลังจากจบแพทยศาสตรบัณฑิต เพื่อให้เข้าใจถึงโรค พัฒนาการ และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็ก ซึ่งมีความแตกต่างจากผู้ใหญ่อย่างมาก
ทำไมต้องมีหมอเด็ก
ทำไมต้องมีหมอเด็ก เพราะเด็กมีความต้องการเฉพาะตัว ได้แก่
- เด็กแต่ละช่วงวัยมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่แตกต่างจากผู้ใหญ่
- ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เจ็บป่วยง่าย โรคต่างๆ มีลักษณะเฉพาะและการรักษาต้องเหมาะสมตามช่วงวัย
- การตอบสนองต่อโรค ยา หรือการรักษาต่างจากผู้ใหญ่
- เด็กบางคนมีปัญหาเฉพาะด้าน เช่น พูดช้า ตัวเล็ก เบื่ออาหาร หรือพฤติกรรมไม่เหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน ซึ่งต้องการการดูแลเฉพาะทาง
- การป้องกันโรคเป็นเรื่องสำคัญ เด็กต้องได้รับการดูแลให้วัคซีนตามวัย และติดตามพัฒนาการตั้งแต่แรกเกิด
การดูแลโดยกุมารแพทย์ซึ่งเข้าใจธรรมชาติของเด็กโดยเฉพาะ จึงช่วยให้เด็กเติบโตอย่างแข็งแรง ปลอดภัย และมีพัฒนาการที่เหมาะสม
หมอเด็กแตกต่างจากหมอผู้ใหญ่อย่างไร?


หมอเด็ก เรียกว่า กุมารแพทย์คือ มีความแตกต่างจากหมอผู้ใหญ่ในหลายด้าน เนื่องจากมีการพัฒนาการเด็กทางร่างกายและจิตใจที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ทำให้การดูแลรักษาจึงต้องมีความเฉพาะเจาะจง ดังนี้
1. กลุ่มผู้ป่วย
- หมอเด็ก : ดูแลรักษาผู้ป่วยเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 15 ปี
- หมอผู้ใหญ่ : ดูแลรักษาผู้ป่วยผู้ใหญ่ ตั้งแต่ช่วงอายุ 15 ปีขึ้นไปจนถึงผู้สูงอายุ
2. ความชำนาญและการฝึกอบรม
- หมอเด็ก : ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านกุมารเวชศาสตร์ ซึ่งเน้นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการ การเจริญเติบโต โรคที่พบบ่อยในเด็ก การให้วัคซีน โภชนาการ และปัญหาทางสุขภาพจิตและพฤติกรรมในเด็ก การฝึกอบรมนี้จะให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับสรีรวิทยา พยาธิวิทยา และการรักษาโรคในเด็ก ซึ่งแตกต่างจากผู้ใหญ่
- หมอผู้ใหญ่ : ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์ (Internal Medicine) หรือสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ใหญ่ การฝึกอบรมจะเน้นโรคที่พบบ่อยในผู้ใหญ่ กลไกการทำงานของร่างกายในวัยผู้ใหญ่ และการรักษาโรคต่าง ๆ ในช่วงวัยนี้
3. ความเข้าใจในพัฒนาการ
- หมอเด็ก : มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคมของเด็กในแต่ละช่วงวัย ทำให้สามารถประเมินและวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการได้
- หมอผู้ใหญ่ : แม้จะมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพัฒนาการ แต่ความเชี่ยวชาญหลักจะเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและโรคที่เกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่
4. การสื่อสาร
- หมอเด็ก : มีทักษะในการสื่อสารกับเด็กในแต่ละวัย รวมถึงการสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือในการรักษา นอกจากนี้ยังต้องสามารถสื่อสารกับผู้ปกครองเพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ชัดเจน
- หมอผู้ใหญ่ : เน้นการสื่อสารกับผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่โดยตรง
5. ลักษณะโรคที่พบบ่อย
- หมอเด็ก : มักดูแลโรคติดเชื้อในเด็ก โรคภูมิแพ้ พัฒนาการผิดปกติ ปัญหาด้านโภชนาการ และโรคทางพันธุกรรมที่แสดงอาการในวัยเด็ก เป็นต้น
- หมอผู้ใหญ่ : มักดูแลโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง และโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมของร่างกายตามวัย
6. การดูแลแบบองค์รวม
- หมอเด็ก : มักให้ความสำคัญกับการดูแลแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพและการเจริญเติบโตของเด็ก
- หมอผู้ใหญ่ : การดูแลแบบองค์รวมก็มีความสำคัญเช่นกัน แต่บริบทอาจแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยแต่ละราย

ความสำคัญของหมอเด็กในการดูแลเด็กแต่ละช่วงวัย
หมอ เด็กมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลสุขภาพและพัฒนาการของเด็กในทุกช่วงวัย โดยมีความสำคัญและให้ความช่วยเหลือที่แตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะของแต่ละช่วงวัย ดังนี้
1. วัยทารกแรกเกิด - 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านร่างกายและระบบต่าง ๆ ของร่างกายยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ จึงมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนและโรคต่าง ๆ ได้ง่าย โดยหมอเด็กจะช่วยเรื่องดังนี้
- ตรวจสุขภาพทารกแรกเกิด และพัฒนาการอย่างสม่ำเสมอ
- การให้วัคซีนตามตารางนัดหมาย เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อร้ายแรงต่าง ๆ
- การวินิจฉัยและรักษาโรคที่พบบ่อยในทารก พร้อมให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับการเลี้ยงดูที่ถูกต้อง โภชนาการ ความปลอดภัย และการสังเกตอาการผิดปกติ
2. วัยเตาะแตะ ช่วงอายุ 1 - 3 ปี เป็นช่วงวัยที่เด็กเริ่มเคลื่อนไหวและสำรวจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและการติดเชื้อต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่พัฒนาการด้านภาษา สังคม และอารมณ์มีความสำคัญ โดยหมอเด็กจะช่วยเรื่องดังนี้
- ติดตามพัฒนาการทางร่างกาย ภาษา การเล่น และสังคม
- ตรวจปัญหาการเดิน พูดช้า พฤติกรรมซนผิดปกติ
- แนะนำโภชนาการที่เหมาะสม เช่น การหย่านม การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่
- การให้วัคซีนกระตุ้นตามกำหนด
- ตรวจสุขภาพช่องปากขั้นต้น
- ให้คำแนะนำเรื่องอุบัติเหตุในบ้าน ซึ่งเกิดได้บ่อยในวัยนี้
3. วัยก่อนเรียน ช่วงอายุ 3 - 6 ปี เป็นช่วงวัยที่เด็กเริ่มเข้าสู่โรงเรียนอนุบาล มีการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมากขึ้น ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่พัฒนาการด้านสติปัญญา ภาษา และสังคมมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยหมอเด็กจะช่วยเรื่องดังนี้
- การตรวจสุขภาพก่อนเข้าเรียน พร้อมการติดตามพัฒนาการประเมินพัฒนาการด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
- เฝ้าระวังภาวะสมาธิสั้น ออทิสติก พฤติกรรมก้าวร้าวหรือถดถอย
- ตรวจสุขภาพร่างกายและพฤติกรรมการนอน
- วางแผนเสริมภูมิคุ้มกัน และสุขอนามัยในเด็กวัยเรียน
- ให้คำแนะนำด้านการฝึกวินัยและสร้างนิสัยที่ดี
4. วัยเรียน ช่วงอายุ 6 - 12 ปี เป็นช่วงวัยที่เด็กมีการเรียนรู้และทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น สุขภาพกายและใจมีความสำคัญต่อการเรียนรู้และพัฒนาสังคม โดยหมอเด็กจะช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
- ตรวจสุขภาพประจำปี การเจริญเติบโต น้ำหนัก ส่วนสูง
- ประเมินการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านต่าง ๆ การเฝ้าระวังภาวะโตก่อนวัย
- การดูแลเมื่อเจ็บป่วย วินิจฉัยและรักษาโรคที่พบบ่อยในเด็กวัยเรียน รวมถึงการจัดการโรคประจำตัว
- ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนตัว โภชนาการที่เหมาะสม การออกกำลังกาย การป้องกันอุบัติเหตุ และการดูแลสุขภาพจิตใจ
5. วัยรุ่น ช่วงอายุ 13 - 15 ปี เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจากวัยเด็กสู่ผู้ใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์สูง โดยหมอเด็กจะช่วยในเรื่องต่าง ๆ เช่น
- การตรวจสุขภาพประจำปี
- ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ โภชนาการ การออกกำลังกาย และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
- พูดคุยเรื่องฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และการมีประจำเดือน
ความสำคัญของหมอเด็ก หรือกุมารแพทย์เฉพาะทาง
แม้ว่าหมอเด็กทั่วไปจะมีความสามารถในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นและโรคทั่วไปในเด็กได้ดี แต่สำหรับเด็กที่มีโรคที่ซับซ้อน โรคเรื้อรัง โรคทางพันธุกรรม หรือมีความผิดปกติเฉพาะเจาะจง การพบหมอเด็กเฉพาะทาง หรือ กุมารแพทย์เฉพาะทาง จะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยที่แม่นยำ การรักษาที่เหมาะสมและทันสมัย การดูแลแบบบูรณาการ และการให้คำปรึกษาที่ละเอียด ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพและการพัฒนาของเด็กในระยะยาว
คุณสมบัติ | หมอเด็กทั่วไป | หมอเด็กเฉพาะทาง |
---|---|---|
ความรู้ | ครอบคลุมโรคทั่วไปในเด็ก | เจาะลึกในสาขาเฉพาะทาง |
การวินิจฉัย | วินิจฉัยโรคทั่วไปได้ดี | วินิจฉัยโรคที่ซับซ้อนหรือหายากได้แม่นยำกว่า |
การรักษา | รักษาโรคทั่วไปตามแนวทางมาตรฐาน | รักษาโรคเฉพาะทางด้วยแนวทางที่ทันสมัยและเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย |
ประสบการณ์ | ดูแลเด็กป่วยหลากหลายโรค | มีประสบการณ์สูงในการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาเฉพาะทาง |
การส่งต่อ | สามารถส่งต่อผู้ป่วยไปยังหมอเฉพาะทางเมื่อจำเป็น | มีความรู้และเครือข่ายในการทำงานร่วมกับผู้ชำนาญในสาขาอื่น ๆ |
ความมั่นใจ | ให้การดูแลเบื้องต้นได้ดี | สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองในการดูแลรักษาโรคที่ซับซ้อนของบุตรหลาน |
หมอเด็กเฉพาะทางของทางโรงพยาบาลนครธน


ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนครธน พร้อมด้วยทีมกุมารแพทย์เฉพาะทาง (หมอเด็ก) ที่ครบทุกความเชี่ยวชาญ เพื่อการดูแลที่พิเศษสำหรับเด็กทุกคน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มดูแลสุขภาพตั้งแต่แรกเกิด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ด้วยวัคซีน ห่างไกลโรคติดเชื้อ
- กุมารแพทย์ทั่วไป ดูแลสุขภาพเด็กทุกช่วงวัย ครบทุกมิติการรักษา
- กุมารแพทย์เฉพาะทางทารกแรกเกิดและปริกำเนิด ดูแลทารกแรกเกิด เสริมเกราะป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน
- กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคติดเชื้อ รักษาโรคติดเชื้อในเด็กที่พบบ่อย ดูแลเด็กให้หายไว ห่างไกลภาวะแทรกซ้อน
- กลุ่มภูมิแพ้อาหาร แพ้อากาศ และผื่นแพ้ผิวหนัง
- กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ทุกเรื่องของภูมิแพ้ ดูแลครบจบตั้งแต่ตรวจวิจัยและรักษา
- กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนังในเด็ก เพราะผิวของเด็กบอบบาง และแพ้ง่าย จึงต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นพิเศษ
- กลุ่มโรคยากซับซ้อน โดยแพทย์เฉพาะทาง
- กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหารและตับ ปัญหาและความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารและตับในเด็ก วางใจปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
- กุมารแพทย์เฉพาะทางโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก ภาวะซีด เลือดจาง ธาลัสซีเมีย มะเร็งในเด็ก ทุกโรคยาก ซับซ้อน ดูแล ติดตาม โดยแพทย์เฉพาะทาง ดูแลด้วยความใส่ใจ
- กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจเด็ก สิ่งสำคัญในการดูแล โรคหัวใจเด็ก คือ การสังเกต เฝ้าระวัง และรักษาอย่างถูกวิธี
- กุมารแพทย์โรคไต ดูแลโรคไตเรื้อรัง หรือการเก็บปัสสาวะผิดปกติ
- กลุ่มพัฒนาการ การเจริญเติบโต ทั้งร่างกายและจิตใจ
- กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม เพราะการเจริญเติบโตของเด็กเป็นสิ่งสำคัญ หากร่างกายเติบโตไม่ปกติ มีภาวะเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย ให้เราดูแลตั้งแต่แรกเริ่ม
- กุมารแพทย์เฉพาะทางพัฒนาการและพฤติกรรม และ กุมารแพทย์เฉพาะทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น พร้อมส่งเสริมพัฒนาการ IQ และ EQ ดูแลปัญหาการเรียน ปัญหาพฤติกรรม เพื่อศักยภาพที่ดีของลูกน้อย
หมอเด็ก ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของเด็กในทุกช่วงวัย
หมอเด็กมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของเด็กในทุกช่วงวัย ตั้งแต่การป้องกันโรค การส่งเสริมพัฒนาการ การวินิจฉัยและรักษาโรค ไปจนถึงการให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กเติบโตอย่างมีสุขภาพดีและมีพัฒนาการที่สมวัย การเข้ารับการตรวจสุขภาพและปรึกษาหมอเด็กเป็นประจำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและอนาคตของเด็ก โดยศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนครธน ให้การบริการตรวจรักษาเด็กอย่างครบวงจร ที่ครอบคลุมในทุกกระบวนการรักษา เป็นแหล่งรวมคุณหมอเด็กที่ครอบคลุมทุกสาขาวิชาทางการแพทย์ (กุมารแพทย์เฉพาะทาง) เพื่อการดูแลสุขภาพลูกน้อยของคุณอย่างครอบคลุมและดีที่สุด
ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลนครธน:
- - Website : https://www.nakornthon.com
- - Facebook : Nakornthon Hospital
- - Line : @nakornthon
- - Tel: 02-450-9999 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
แพ็กเกจ/โปรโมชั่น
บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพเด็ก